พ่อแม่ต้องรู้ วิธีการแก้ปัญหาเด็กไม่ยอมทำการบ้าน

เป็นธรรมดาที่ “การบ้าน” จะเป็นไม้เบื่อไม้เมาของนักเรียนทั้งหลาย โดยเฉพาะในช่วงที่เด็ก ๆ ต้องเรียนออนไลน์ด้วยแล้วนั้น การบ้านคือสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับความสุขความสนุกอย่างแท้จริง หลายคนมองการบ้านเป็นภาระที่น่าเบื่อหน่าย เป็นอุปสรรคขวางกั้นเวลาเล่นสนุกหรือทำอย่างอื่นที่ตัวเองชอบ ดังนั้นกว่าจะกล้ำกลืนฝืนทนทำการบ้านเสร็จกันในแต่ละวันก็เล่นเอาคุณพ่อคุณแม่ปวดหัวกันเสียยกใหญ่

และนี่คือโจทย์ใหญ่โจทย์สำคัญสำหรับคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองทุกบ้าน…เมื่อลูกไม่ชอบทำการบ้านแล้วจะทำอย่างไรดี ลองมาแก้ไขปัญหานี้ไปพร้อม ๆ กัน เริ่มจากมาดูกันว่าสาเหตุที่เด็ก ๆ ไม่ชอบทำการบ้านนั้นมีอะไรบ้าง ไปจนถึงวิธีการแก้ไขปัญหากันดีกว่า

สาเหตุที่ทำให้เด็ก ๆ ไม่ชอบทำการบ้าน 

การที่จะแก้ไขปัญหาให้ได้ตรงจุด คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองควรทราบกันเสียก่อนว่าอะไรกันนะ คือต้นเหตุที่ทำให้เด็กน้อยประจำบ้าน “ไม่ชอบ” การทำการบ้าน

  • การบ้านยาก ไม่เข้าใจบทเรียน
    เด็ก ๆ หลายคนมีปัญหาไม่เข้าใจบทเรียนซึ่งนำมาสู่การทำการบ้านไม่ได้ หรือบางคนอาจเข้าใจบทเรียนแต่ไม่เข้าใจโจทย์ที่การบ้านให้ทำ ดังนั้นก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะหาหนทางแก้ไขปัญหา จึงควรเข้าใจเสียก่อนว่าลูกของคุณแท้จริงแล้วไม่ชอบทำการบ้านหรือมีปัญหาเรื่องไม่เข้าใจบทเรียนกันแน่
  • เหนื่อยล้า
    เมื่อเหนื่อยล้าจากการร่ำเรียนมาทั้งวันก็เป็นธรรมดาที่เด็ก ๆ จะไม่อยากเรียนหรือต้องการทำการบ้านเพิ่มเติม
  • ขาดแรงจูงใจ
    นอกจากการบ้านจะไม่ใช่กิจกรรมที่สนุก เด็ก ๆ หลายคนอาจมีความรู้สึกต่อต้านเพราะยังไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงจำเป็นจะต้องทำการบ้าน 
  • ขี้เกียจทำการบ้าน
    เด็ก ๆ หลายคนไม่ยอมทำการบ้านเพราะขี้เกียจทำการบ้าน ซึ่งอาจมีต้นเหตุมาจากเป็นคนรักสบายหรือติดสบายมากเกินไป คุณพ่อคุณแม่อาจพิจารณาดูเสียหน่อยว่าลูกน้อยถูกตามใจมากไปจนติดสบายเกินไปหรือเปล่า 

วิธีการแก้ปัญหาลูกไม่ชอบทำการบ้าน 

เมื่อพอเข้าใจต้นเหตุของปัญหาเด็กไม่ชอบทำการบ้านกันไปแล้ว ต่อมาก็เป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหา ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหานั้นก็มีอยู่หลากหลายวิธี ทั้งการหล่อหลอมความคิดให้ลูกมีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการทำการบ้าน รวมไปถึงการค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมและสร้างบรรยากาศน่าทำการบ้านหรือศึกษาเล่าเรียนให้มากขึ้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองสามารถลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดูได้ 

  • สร้างบรรยากาศสงบสำหรับใช้เป็นพื้นที่ทำการบ้าน
    ภายในบ้านควรมีมุมใดมุมหนึ่งของบ้านจัดเป็นพื้นที่สำหรับให้ลูกทำการบ้านและศึกษาทบทวนบทเรียน มุมดังกล่าวควรเงียบและสงบเพื่อให้เด็ก ๆ ได้มีสมาธิทำการบ้านหรือทบทวนบทเรียนได้เต็มที่โดยควรปราศจากสิ่งล่อตาล่อใจอื่น ๆ เข้ารบกวน 
  • จัดสรรเวลาทำการบ้าน
    คุณพ่อคุณแม่ควรกำหนดช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในแต่ละวันเป็นเวลาสำหรับการทำการบ้านไว้โดยเฉพาะ เมื่อลูกได้ใช้เวลาดังกล่าวสำหรับทำการบ้านในทุก ๆ วัน เด็ก ๆ ก็จะค่อย ๆ คุ้นชินและเห็นการทำการบ้านเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันที่ตนเองคุ้นเคย หลาย ๆ บ้านอาจเลือกมีการตั้ง “กติกา” เกี่ยวกับการทำการบ้านไว้โดยเฉพาะ เช่น ตั้งกติกาว่าหากทำการบ้านเสร็จ จะให้ลูกมีเวลาดูทีวี หรือเล่นเกมส์ แต่หากไม่ทำการบ้านให้เสร็จเรียบร้อยจะมีบทลงโทษบางอย่างตามมา
  • คุณพ่อคุณแม่ช่วยสนับสนุน
    หากต้องให้นั่งทำการบ้านอยู่คนเดียว ทั้งยาก ทั้งน่าเบื่อ ร้อยทั้งร้อยก็คงไม่มีใครอยากทำการบ้าน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรสนับสนุนลูกน้อยในการทำการบ้านบ่อย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องถึงขั้นลงมือทำการบ้านให้ลูกแต่เพียงแสดงความมีส่วนร่วม เช่น การถามไถ่ว่าวันนี้ลูกมีการบ้านอะไร คุณครูให้หนูทำอะไร หรือพร้อมเข้าช่วยเหลือทุกครั้งที่ลูกน้อยไม่เข้าใจบทเรียน วิธีนี้สามารถทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้มีโอกาสใกล้ชิดลูกน้อยและเข้าใจว่าต้นเหตุของปัญหาการไม่ชอบทำการบ้านคืออะไร ซึ่งหากพบว่าลูกมีปัญหาไม่เข้าใจบทเรียนหรือไม่เข้าใจโจทย์การบ้าน คุณพ่อคุณแม่ที่สแตนบายอยู่ใกล้ ๆ ก็สามารถคอยช่วยอธิบายให้เด็ก ๆ เข้าใจบทเรียนได้ทันที นอกจากนี้การมีพ่อแม่อยู่ใกล้ ๆ ก็ช่วยให้ความรู้สึกสบายใจมากขึ้นแก่ลูกได้
  • เอ่ยคำชมและให้รางวัล
    หลังลูกน้อยทำการบ้านเสร็จ คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมคำชมหรือรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้ให้ลูก การเอ่ยคำชมหรือให้รางวัลจะช่วยเปลี่ยนทัศนคติที่ไม่ดีต่อการบ้านให้ดีขึ้น 
  • หล่อหลอมให้ลูกทราบถึงความสำคัญของการบ้าน
    หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่เด็ก ๆ ต้องทำการบ้านแท้จริงแล้วไม่ใช่เพื่อให้เข้าใจบทเรียนมากขึ้นแต่อย่างใด แต่บทบาทของการบ้านคือการสั่งสอนให้เด็ก ๆ เรียนรู้ความรับผิดชอบและรู้จักทำหน้าที่ของตนเอง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรอธิบายเรื่องความสำคัญของ “ความรับผิดชอบต่อหน้าที่” ให้ลูก ๆ ได้เข้าใจ อาจยกตัวอย่างการทำงานของตนเอง เมื่อใดที่คุณพ่อคุณแม่มีงานมาทำที่บ้าน หรือเมื่อต้องทำงานบ้าน ก็สามารถอธิบายต่อลูกน้อยได้ว่านี่ก็คือการบ้านของพ่อแม่ที่คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องทำ
  • ให้ลูกได้พักผ่อนก่อนเริ่มลงมือทำการบ้าน
    เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเครียดหรือเหนื่อยล้า ภายหลังจากการกลับจากโรงเรียนหรือเสร็จสิ้นคาบเรียนออนไลน์ คุณพ่อคุณแม่ควรให้โอกาสเด็ก ๆ ได้พักผ่อนก่อนเริ่มให้น้องลงมือทำการบ้านทันที อาจให้เวลาลูกได้หลับพักผ่อน ออกไปวิ่งเล่นยืดเส้นยืดสาย หรือทานอาหารเย็นก่อนการทำการบ้าน